วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อาหารไทย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร สมดังคำกล่าวที่ว่า "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" คนไทยรู้จักที่จะนำ ทรัพยากรเหล่านี้มาปรุงเป็นอาหารไทย วิธีปรุงอาหารเป็นมรดกตกทอด ที่ทำสืบเนื่องกันมานับร้อยๆ ปี ปัจจุบันอาหารไทยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก แพร่หลายไปทั่วโลก คนไทยรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก มีอาหารอื่นๆ ประกอบ เช่น แกงเผ็ด ผัดผักต่างๆ หรือผัดเผ็ด เนื้อทอดหรือสิ่งอื่นอีกสักอย่าง อาหารไทยที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่ามีรสอร่อย เป็นสัญลักษณ์ ของคนไทย ได้แก่ น้ำพริกปลาทู แกงเผ็ด ต้มยำกุ้ง หมี่กรอบ และห่อหมก อาหารแต่ละมื้อของคนไทย อาจหาได้จากธรรมชาติรอบตัว เช่น กุ้ง ปลาในน้ำ ผักรอบๆ บ้าน คนไทยนิยมทำสวนครัวไว้หลังบ้าน ช่วยให้มีอาหารรับประทานสะดวก และเป็นการประหยัดด้วย

อาหารหลักของคนไทย

อาหารที่จัดว่าเป็นอาหารหลักของคนไทย อาจจำแนกได้เช่นเดียวกับอาหาร ของชาติอื่นๆ คือ ๑. อาหารที่ให้พลังงานจำพวกแป้ง ได้แก่ ข้าวทุกชนิด เช่น ข้าวเจ้า ข้าวโพด ข้าวเหนียว เป็นต้น รวมทั้งเผือก มันเทศ มันสำปะหลัง และถั่วต่างๆ คนไทยใช้วัตถุดิบเหล่านี้ทำทั้งอาหารคาวและหวาน ขนมไทยมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วน ประกอบสำคัญ เช่น บัวลอย ถั่วดำต้มน้ำตาล มันแกงบวด เป็นต้น คนไทยส่วนใหญ่รับประทานข้าวทุกมื้อ มื้อเย็นเป็นมื้อที่รับประทานมากที่สุด แต่ปัจจุบันนี้ความนิยมในการรับประทานมื้อเย็นมากที่สุดและการรับประทานข้าวมากกว่า อย่างอื่นๆ ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว ๒. อาหารที่สร้างและซ่อมเสริมร่างกาย ได้แก่ เนื้อ นม ไข่ คนไทยนิยมนำทั้งไข่เป็ดและไข่ไก่มาปรุงเป็นอาหารมากมายหลายอย่าง นอกจากไข่ทั้ง สองชนิดแล้ว ยังมีไข่ปลาจะละเม็ด ไข่นกกระทา และไข่อื่นๆ อีก อาหารที่ทำให้ร่างกาย แข็งแรงคือ เนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งคนไทยทั่วๆ ไปยังรับประทานอยู่ในสัดส่วนที่ต่ำ เพราะ บางครอบครัวไม่สามารถซื้อหามาได้เนื่องจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจ แต่คนเหล่านั้น




อาจจะรับประทานถั่วต่างๆ และผลิตผลจากถั่ว เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ซึ่งมีคุณค่าใกล้ เคียงเนื้อสัตว์ทดแทนได้
๓. อาหารที่ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายทำงาน คือ ไขมันซึ่งได้จากสัตว์และพืช ไขมันจากสัตว์ได้จากมันของสัตว์ต่างๆ เช่น มันหมู มันวัว มันไก่ และไข่แดง ไขมันจากพืชได้จากมะพร้าว ซึ่งคนไทยใช้น้ำกะทิปรุงอาหารทั้งคาว และหวาน นอกจากนั้นยังได้ไขมันจากถั่ว งา และธัญพืชต่างๆ ๔. อาหารที่ป้องกันและต้านทานโรค ได้แก่ ผักและผลไม้ ซึ่งประเทศไทยมีอุดมสมบูรณ์ คนไทยรับประทานทั้งใบ ดอก ผล ต้น เมล็ด ของผัก ซึ่งให้วิตามินสูง เช่น ฟักทอง มะเขือเทศ ตำลึง ผักกาด ผักบุ้ง เป็นต้น ผลไม้ของไทยมี มากมายหลายชนิดหมุนเวียนตลอดปี ผลไม้ให้วิตามินซี วิตามินเอ และเกลือแร่ เช่น มะละกอ มะม่วง ส้ม และกล้วยต่างๆ สามารถรับประทานได้ทั้งสดหรือนำมาต้ม เผา เชื่อม และกวนเก็บไว้ได้ด้วย การปรุงอาหารของคนไทยในปัจจุบัน พยายามเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อ ร่างกายเพื่อให้ได้สารอาหารครบทั้ง ๖ พวก คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน และน้ำ