นอกจากจะปลูกรับประทาน ผลพริกไทยเมื่อสุกจะมีสีแดงส้มเป็นพวงสวย เป็นไม้ประดับก็ดูดี เป็นไม้สวนครัวก็ดูเด่น จากจากพริกไทยแห้งที่เป็นเครื่องเทศที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารไทยหลากหลายชนิดแล้ว (เช่นพวกกระเทียมพริกไทย) ยังมีเมนูที่นิยมมีพริกไทยอ่อนเป็นส่วนผสมก็ได้แก่ อาหารจำพวกผัดเผ็ดทั้งหลาย หรือผัดฉ่า เติมไว้เพื่อดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ เป็นที่รู้ว่า อาหารจำพวกเนื้อสัตว์นั้นบางชนิดก็ย่อยยาก อย่างหอยหลอดผัดฉ่า เป็นต้น และหากเรากินเมล็ดพริกไทยอ่อนในเมนูเหล่านี้ เราก็จะได้รับประทานยาช่วยย่อย และรักษากระเพาะเข้าไปด้วยโดยอัตโนมัติ ช่วยให้สบายท้องขึ้นอีกเป็นอันมาก
เราใช้พริกไทยในฐานะสมุนไพรมาช้านาน พริกไทยมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยย่อยอาหาร และช่วยถนอมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไม่ให้เน่าเสียง่าย น้ำมันหอมระเหยในพริกไทยช่วยแก้หวัดได้และได้ถูกใช้ไปเป็นส่วนผสมของน้ำมันที่เราใข้สูดดมเพื่อให้โล่งจูมกอยู่หลายขนาน แต่การนำมาทำสมุนไพรนั้นนิยมใช้พริกไทยดำมากกว่า เพิ่มให้ว่าพริกไทยดำนั้นคือพริกไทยที่แก่จัด ซึ่งกลิ่นและรสนั้นหอมฉุนกว่า ส่วนพริกไทยขาวนั้นคือผลที่ยังไม่แก่
ผลและเมล็ดเป็นส่วนสำคัญที่เรานำมาใช้มาก โดยเฉพาะเมล็ดนั้นสามารถรักษาอาหารปวดกระเพาะอาหาร อาหารคลื่นไส้ อาเจียน ช่วยขับลมในกระเพาะ แก้ท้องเสีย แก้ปวดฟัน แก้ท้องอืด และช่วยย่อย ในแง่นี้คนไทยก็ใช้พริกไทยแห้งในอาหารเพื่อเพิ่มความหอมอยู่แล้วโดยปกติ
พริกไทยอ่อนให้แคลเซียมในปริมาณสูงมาก รองลงมาก็มีทั้งฟอสฟอรัส วิตามินซี และเบต้า-แคโรทีน ที่ช่วยป้องมะเร็ง
ใครคนไหนที่ยังไม่คุ้นกับพริกไทยอ่อน ลองรับประทานดู แรก ๆ อาจเผ็ดร้อนกับรสชาติ แต่หากอดทนลองดูจนคุ้น พริกไทยอ่อนอาจทำให้คุณติดใจในความหอมของกลิ่นเครื่องเทศ และรู้สึกสบายตัวสบายท้อง โล่งจมูก จนพริกไทยกลายเป็นเครื่องเทศที่ต้องมีมาในอาหารประจำของคุณทุกมื้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น